วันที่ ๑๐ เดือนธันวาคม พุทธศักราช
๒๕๕๘
ที่มา : ผศ.ประสงค์ หลำสะอาด, คู่มือรายวิชาเพิ่มเติม ชีววิทยา เล่ม ๓.พิมพ์ครั้งที่ ๑. กรุงเทพฯ : พ.ศ.พัฒนา.
๒๔๕๔. หน้า ๑๖-๒๙
เรื่อง โครงสร้างและหน้าที่ของลำต้น
ลำต้น เป็นโครงสร้างของพืชที่เจริญถัดขึ้นมาจากราก ลำต้นมีข้อปล้อง
บริเวณข้อจะมีใบ ที่ซอกใบมีตา ลำต้นทำหน้าที่ชูกิ่ง ใบ ดอก ผล
และทำหน้าที่ลำเลียงอาหาร ธาตุอาหาร และน้ำ
ตารางแสดงความแตกต่างระหว่างลำต้นพืชใบเลี้ยงคู่กับลำต้นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว
ลำต้นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว
|
ลำต้นพืชใบเลี้ยงคู่
|
1. มีข้อและปล้องเห็นได้ชัดเจน
2. ไม่ค่อยแตกกิ่งก้านสาขา
3.มัดท่อน้ำท่ออาหารกระจายไปทั่วลำต้น
4. ส่วนมากไม่มีแคมเบียม
5. ส่วนมากไม่มีการเจริญขั้นที่สอง
6. ส่วนมากไม่มีวงปี
7. โฟลเอ็มและไซเลมมีอายุการในการทำงาน
|
1. เห็นได้ไม่ชัดเจนนัก
2. มีกิ่งก้านสาขามาก
3. มัดท่อน้ำท่ออาหารเรียงตัวเป็นวงรอบลำต้น
4. ส่วนมากมีแคมเบียม นอกจากพืชล้มลุกบางชนิดไม่มี
5. ส่วนมากมีการเจริญขั้นที่สองและเจริญไปเรื่อยๆสัมพันธ์กับความสูง
6. ส่วนมากมีวงปี
7. โฟลเอ็มและไซเลมมีอายุการทำงานสั้น
แต่จะมีการสร้างขึ้นมาทดแทนอยู่เรื่อยๆโดยแคมเบียม
|
ชนิดของลำต้น
สามารถจำแนกลำต้นออกตามแหล่งที่อยู่ได้สองประเภทใหญ่
ๆ ได้แก่ ลำต้นเหนือดินและลำต้นใต้ดิน
ลำต้นเหนือดิน (aerial stem)
๑. ต้นไม้ยืนต้น (tree) เป็นต้นไม้ที่มีลำต้นหลักต้นเดียว
จากนั้นจึงแตกกิ่งก้านสาขาบริเวณยอด ลักษณะเนื้อแข็ง ลำต้นมีขนาดใหญ่
อายุยืนหลายปี
๒. ต้นไม้พุ่ม (shrub) เป็นต้นไม้ที่มีลำต้นหลักหลายต้น
มักมีเนื้อไม้แข็งแต่มีขนาดเล็กว่าไม้ยืนต้น แตกกิ่งก้านสาขาใกล้บริเวณผิวดิน
๓. ต้นไม้ล้มลุก (herb) เป็นต้นไม้ที่มีเนื้อไม้อ่อนหรือไม่มีเนื้อไม้
ส่วนใหญ่มีอายุปีเดียว บางชนิดอาจอยู่ได้สองปี เมื่อครบวัฏจักรชีวิตจะตายไป
ไม้ล้มลุกบางชนิดที่มีลำต้นอยู่ใต้ดิน
เมื่อส่วนที่อยู่เหนือดินตายส่วนที่อยู่ใต้ดินจะพักตัวอยู่และงอกในฤดูถัดไป
๑.จำแนกตามลักษณะของเนื้อไม้
๑) ลำต้นที่มีเนื้อไม้
(woody stem) ได้แก่ ลำต้นของต้นไม้ประเภทไม้ยืนต้นและไม้พุ่ม
๒) ลำต้นที่ไม่มีเนื้อไม้
(herbaceous stem) ได้แก่ ลำต้นของต้นไม้ประเภท ไม้ล้มลุก
๒. ลำต้นที่เปลี่ยนแปลงไปเพื่อทำหน้าที่พิเศษ
๑) ลำต้นเลื้อย (creeping
stem หรือ prostate
stem) เป็นลำต้นที่เลื้อยไปตามผิวดินหรือผิวน้ำและมีรากงอกออกมาจากบริเวณข้อแล้วแทงลงดินเพื่อช่วยยึดลำต้น
เช่น สตรอเบอรี ผักบุ้ง ผักตบชวา
๒)
ลำต้นปีนป่าย (climbing stem) เป็นลำต้นที่เลื้อยหรือไต่ขึ้นที่สูง เป็นพวกไม้เถา (vine)
ได้แก่
- ทไวเนอร์ (twiner) เป็นไม้เถาที่ปีนป่ายขึ้นที่สูงโดยใช้ลำต้นพันกับหลักเป็นเกลียว เช่น
ถั่วฝักยาว
- รูตไคลม์เบอร์ (root climber) เป็นลำต้นที่ปีนป่ายขึ้นที่สูง
โดยงอกรากออกจากข้อยึดติดกับหลักหรือต้นไม้ เช่น พลู พริกไทย
- ลำต้นหนาม (spine หรือ thorny stem) เป็นลำต้นที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นหนามรวมทั้งขอเกี่ยวสำหรับปีนป่ายขึ้นที่สูงและป้องกันอันตราย
เช่น ส้ม
- ฟีลโลเคลด (phylloclade) เป็นลำต้นที่มีลักษณะแบนจนกระทั่งคล้ายกับลักษณะของใบในพืชทั่ว ๆ ไป
ลำต้นแบบนี้ปกติจะทำหน้าที่ของใบด้วย คือ สังเคราะห์แสง
ดังนั้นพืชที่มีลำต้นแบบนี้จึงไม่มีใบหรือมีก็เล็กมาก เช่น ตะบองเพชร
- แคลโดฟีลล์ (cladophyll) หรือ แคลโดด (cladode)
เป็นลำต้นที่เปลี่ยนไปมีลักษณะคล้ายใบเช่นเดียวกันกับฟีลโลเคลดแต่มักใช้กับกิ่งก้านที่เป็นเส้นเรียวเล็ก
ทำหน้าที่แทนใบโดยมีสีเขียว สามารถสังเคราะห์แสงได้ เช่น หน่อไม้ฝรั่ง สนปฏิพัทธ์
ลำต้นใต้ดิน (underground stem)
ลำต้นใต้ดินบางชนิดมักมีผู้เข้าใจผิดว่าเป็นราก
ทั้งนี้เพราะลำต้นเหล่านี้ไม่มีคลอโรฟีลล์ มีรากเล็ก ๆ งอกออกมาซึ่งคล้ายกับรากแขนงที่แตกออกมาจากรากแก้ว
ลำต้นใต้ดินมีรูปร่างแตกต่างไปจากลำต้นเหนือดิน ส่วนใหญ่ทำหน้าที่สะสมอาหาร ได้แก่
ไรโซม ทูเบอร์ บัลบ์และคอร์ม
๑) ไรโซม (rhizome) เป็นลำต้นใต้ดินที่มักขนานไปกับผิวดิน มีข้อและปล้องสั้น ๆ
ตามข้อมีใบเกล็ดสีน้ำตาลไม่มีคลอโรฟีลล์หุ้มตาไว้
ตาสามารถแตกแขนงเป็นลำต้นใต้ดินหรือลำต้นและใบชูขึ้นเหนือดิน มีรากงอกลงดิน
ลำต้นชนิดนี้มักเรียกว่า แง่ง หรือเหง้า เช่น ขิง ข่า ขมิ้น พุทธรักษา หญ้าคา
หญ้าแพรก
๒) ทูเบอร์ (tuber) เป็นลำต้นใต้ดินสั้น ๆ ประกอบด้วยข้อและปล้องประมาณ ๓-๔ ปล้องเท่านั้น
ไม่มีใบเกล็ด ลำต้นมีอาหารสะสมทำให้อวบอ้วน มีตาอยู่โดยรอบซึ่งมักจะบุ๋มลงไป
สามารถงอกต้นใหญ่ชูขึ้นเหนือดินในบริเวณตานั้น ได้แก่ มันฝรั่ง
๓) บัลบ์ (bulb) เป็นลำต้นใต้ดินที่ตั้งตรง ใบเกล็ดนี้จะทำหน้าที่สะสมอาหาร
ในขณะที่ลำต้นไม่มีอาหารสะสมอยู่ ส่วนล่างของลำต้นมีรากเป็นกระจุก เช่น หอม
กระเทียม พลับพลึง
๔.) คอร์ม (corm) เป็นลำต้นใต้ดินที่ตั้งตรงเช่นเดียวกับบัลบ์
มีข้อปล้องเห็นชัดตามข้อมีใบเกล็ดบาง ๆ หุ้ม ลำต้นหน้าที่สะสมอาหารทำให้อวบอ้วน
มีตาตามข้อสามารถงอกเป็นใบโผล่ขึ้นเหนือดินหรืออาจแตกเป็นลำต้นใต้ดินต่อไปได้ เช่น
เผือก แห้วจีน ซ่อนกลิ่นฝรั่ง
หน้าที่ของลำต้น
ลำต้นมีหน้าที่สำคัญ๒ อย่าง คือ
๑.
เป็นแกนสำหรับช่วยพยุง ( supporting ) กิ่งก้านสาขา ใบ และดอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วยให้ใบกางออกรับแสงแดดมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
๒.
เป็นตัวกลางสำหรับลำเลียง ( transportation ) น้ำ เกลือแร่ และอาหาร
ส่งผ่านไปยังส่วนต่างๆของพืช
นอกจากนี้ลำต้นยังมีหน้าที่พิเศษอื่นๆอีกหลายอย่าง เช่น สะสมอาหาร
แพร่พันธุ์ สังเคราะห์แสง เป็นต้น